ดาวเทียมบ้านสมเด็จฯ ปีโป้ ทิพย์ธัญตรี ในวันที่สถานะเพศเปลี่ยนไป!



loading...



กลับมาพบกันอีกครั้งกับ คอลัมน์เพศทางเลือก คอลัมน์สำหรับหนุ่มสาวที่มีความหลากหลายทางเพศ แน่นอนมันไม่ใช่เรื่องที่ผิดแปลก แต่พี่แคมปัส อยากจะสะท้อนเรื่องราวและแนวคิดดีๆ จากกลุ่มคนวัยศึกษาอีกกลุ่มหนึ่ง ที่มีมุมมองและความคิดในแบบที่เขาเป็น

ชีวิตคนเราบางทีก็มันดี๊ดี บางวันก็โหดร้าย บางครั้งก็เต็มไปด้วยความสนุกสนาน แต่ละคนแต่ละวันก็ล้วนแต่มีช่วงเวลาและอารมณ์ที่แตกต่างกันไป เหมือนดังเช่นสภาพดินฟ้าอากาศ ไม่มีวันไหนที่จะสว่างตลอด เพราะมันต้องมีเวลามืดมิด ไม่มีคืนไหนที่ฟ้าร้องฟ้าผ่าทั้ง 12 ชั่วโมง เพราะสุดท้ายแล้วมันก็ต้องมีฟ้าหลังฝน


แขกรับเชิญวันนี้ก็เช่นกัน หลายอย่างเปลี่ยนไป ทุกอย่างเริ่มต้นได้ใหม่เสมอ การปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลง สิ่งนั้น...สำคัญที่สุด กับสถานภาพที่เปลี่ยนไป

ปีโป้ หรือ ทิพย์ธัญตรี นาคะเสถียร เป็นคนจังหวัดปราจีนบุรี เข้ามาเรียนที่กรุงเทพมหานคร โดยเธอเป็นสาวนักศึกษาชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา พี่แคมปัสพูดได้เต็มปากเต็มคำ เธอคือนักศึกษาสาวจริง เพราะเธอจะไม่มีวันกลับไปเป็นชายแล้ว เธอเล่าให้เราฟังถึงเรื่องราวในชีวิตของเธอ แต่เราขอเริ่มต้นด้วยการศึกษากันก่อนนะจ๊ะ

"หนูเรียนอยู่ชั้นปี 4 ของคณะวิทยาการจัดการ ในโปรแกรมวิชานิเทศศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยาค่ะ ถามว่าเรียนยากมั้ย ก็ยากเหมือนกันนะคะ เพราะหนูเลือกเรียนเอกโฆษณา ซึ่งมีทั้งการเรียนในส่วนของทฤษฎีและปฏิบัติ แต่ตอนนี้ใกล้จะจบแล้วค่ะ ดีใจมากๆ"


ย้อนกลับไป...จากเด็กซิ่ว

ก่อนหน้าที่จะมาเรียนที่นี่ ปีโป้เคยเรียนที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต แต่เมื่อได้ลองเรียนแล้ว รู้สึกว่ามันไม่ใช่ และไม่ชอบ จึงตัดสินใจมาเรียนมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา

ถ้าเรียนจบ...

หนูตั้งใจจะไปทำงานกับบริษัทโฆษณา จะได้ใช้ความรู้ที่เรียนมาเพื่อทำงานจริงจัง ส่วนจะไปทำอะไรเพิ่มเติมอีกมั้ย คงต้องเป็นเรื่องของอนาคต และโอกาส


ทำงานหาเงิน

หนูมีงานเสริมค่ะ หนูรับรีวิวครีม ถ่ายรูป ทำสารพัดจะได้เงิน ก่อนหน้านี้เคยได้ไปร่วมเล่นซีรีส์ตี๋ใหญ่ดับดาวโจรด้วย ซึ่งฉากที่หนูออกมีนิดเดียว แต่มันได้เงินค่ะ เลยอยากทำมากๆ และนั่นทำให้หนูได้ประสบการณ์ด้วยค่ะ ถึงแม้จะเหนื่อยแต่มันก็สนุก ถ้ามีโอกาสจะไปทำอีก

ดาวเทียม

หนูมีตำแหน่งพ่วงด้วยนะคะ เป็นมิสเอ็ม ทิฟฟานี่ จากการประกวดมิสทิฟฟานี่ 2013 หนูเลยกลายเป็นดาวเทียมของคณะวิทยาการจัดการคนแรกเลยค่ะ ก็รู้สึกดีนะคะที่ได้ประกวด เพราะหนูได้แสดงศักยภาพที่หนูมีด้วยค่ะ


สาวประเภทสอง

หนูเป็นคนร่าเริงนะคะ สาวประเภทสองในความคิดของหนู คือก็ต้องมีความเป็นตัวของตัวเอง และไม่ดูทำตัวรุนแรงมากจนเกินไป เดี๋ยวผู้ชายกลัว

เรื่องสำคัญของสาวประเภทสอง

การวางตัว เรื่องนี้สำคัญมากค่ะ ต้องวางตัวให้ดี ให้เหมาะสมกับกาลเทศะ และสถานที่ด้วย


เวลามีคนมอง

เมื่อเวลามีคนมอง หนูคิดว่า เขาคงเห็นหนูแต่งหน้าจัดรึเปล่า แต่งตัวสวยไป เซ็กซี่ไปรึเปล่า แต่หนูก็เน้นเรื่องกาลเทศะสำคัญที่สุดค่ะ

กิจวัตรประจำวัน

หนูต้องดูแลตัวเอง เช้าตื่นมาทำความสะอาดร่างกาย ล้างหน้า ทาครีม มีเวลาไปออกกำลังกาย ไปเสริมสวยบ้างเหมือนผู้หญิงทั่วไป


เราคุยกันมาอยู่ระยะหนึ่ง พี่แคมปัสก็ต้องตกใจ เมื่อปีโป้เล่าว่า...

หนูก็ดูแลตัวเองให้เหมือนผู้หญิงมากที่สุด ที่หนีความเป็นสาวประเภทสอง หนูไปทำหน้าอก ทำคาง ทำหน้าผาก ฉีดโบท็อกซ์ และก็แปลงเพศ...

ความคิดเรื่อง "แปลงเพศ"

ตอนแรกก็คิดอยู่นานมาก สำหรับเรื่องการแปลงเพศ เพราะว่าไม่ใช่อยู่ๆ เราจะทำ ก็ไปทำเลยได้ เพราะผลที่ตามมา มันจะเยอะมาก หนูก็รับทราบตรงนั้นดี โดยเฉพาะเรื่องความเจ็บปวด หนูถามเพื่อนๆ ว่าเจ็บมั้ย เพื่อนบอกไม่เจ็บหรอก จิ๊บๆ


เมื่อตัดอวัยวะเพศทิ้ง

สิ่งแรกหลังจากที่หนูไปทำ มันทรมานมากๆ เลยนะคะ สมมติว่าถ้าหนูยังรู้สึกว่า ยังอยากเป็นผู้ชายอยู่ หลังจากที่ทำมาแล้วนั้น มันก็จะนอยด์ไปเลย แต่สำหรับหนู หนูอยากเป็นผู้หญิงเต็มตัวแล้ว หนูก็เลยต้องสู้

ร้องไห้ทุกวันเลย

ใช่ค่ะ มันเจ็บจริงๆ หนูร้องไห้ทุกวันเลย เดือนกว่าๆ หลังจากที่ทำ ไม่มีวันไหนหนูไม่ร้องไห้ เพราะว่าฮอร์โมนมันเปลี่ยนไป และมันก็เจ็บมากๆ ด้วย แต่ตอนนี้เวลาผ่านมา 2 เดือนกว่าๆ แล้ว หนูเลิกร้องไห้แล้วค่ะ ถึงแม้ว่าจะยังเจ็บอยู่บ้าง แต่มันก็ลดลงจากช่วงแรกๆ เยอะค่ะ


ที่ว่า...ทรมาน

หนูเหนื่อยมากๆ ที่ผ่านมา เพราะมันต้องดูแล และต้องทำตามที่หมอบอก เรื่องการทำให้ตัวเองเป็นเหมือนผู้หญิงที่สุด มันเจ็บตรงนี้ค่ะ แต่ทุกวันนี้มียาชา ที่คุณหมอให้มาเป็นตัวช่วยค่ะ ทุกอย่างก็เริ่มดีขึ้น

สะกดจิตตัวเอง

ทุกวันนี้พยายามอยู่ค่ะ หนูพยายามบอกตัวเอง ว่าหนูไม่เป็นสาวประเภทสองแล้วนะ หนูเป็นผู้หญิงแล้วนะ อะไรที่มันดูแบบว่า เกินผู้หญิงไป หนูก็จะลดลงและไม่ทำแล้วค่ะ


ปรับตัวเอง ตามร่างกาย



loading...


เรื่องนี้สำคัญมากเลยค่ะ หนูต้องปรับเปลี่ยนตัวเอง วันที่หนูเป็นผู้หญิงเต็มตัว หนูต้องเปลี่ยนไปมาก อันดับแรกคือจิตใจและความคิด

ผู้หญิงวัยทอง

เรื่องของอารมณ์ก็เช่นกัน ช่วงนี้มันจะไม่ลงตัวเลย เพราะฮอร์โมนบางตัวหายไป มันทำให้หนูหงุดหงิด ซึ่งหนูก็ต้องพยายามควบคุมมันให้ดี บางทีพูดจาไม่รู้เรื่องเลย ซึ่งอาจจะเหมือนผู้หญิงวัยทอง



ฮอร์โมนหญิง-ชาย

ตอนนี้ฮอร์โมนผู้ชายถูกตัดไป ตอนนี้จะต้องเทคฮอร์โมนผู้หญิงเข้าไปแทนที่ ร่างกายหนูมันจะไม่ผลิตฮอร์โมนเลย หนูต้องเทคเข้าไป ถ้าเราไม่เทค มันจะทำให้อายุเราสั้นลง ฮอร์โมนสำคัญกับร่างกายเรามากๆ

หนูเป็นผู้หญิงค่ะ

ใช่ค่ะ มันเริ่มกลืน เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา หนูแต่งตัว และใช้ชีวิตแบบผู้หญิงมาโดยตลอด มีการปรับตัวมาโดยตลอด ตอนนี้ก็แต่งตัว ใส่เสื้อผ้าของผู้หญิงเลย และเวลาที่ใครมาถาม หนูก็ตอบได้อย่างภาคภูมิใจว่า หนูเป็นผู้หญิงแล้วค่ะ


โอกาสที่สาวประเภทสองต้องการ

หนูคิดว่า การได้เป็นผู้หญิง คือสิ่งที่สาวประเภทสองอย่างหนูอยากจะเป็นกัน ถ้าทุกคนมีโอกาส ทุกคนก็อยากจะทำมัน

ทุ่มสุดตัว

หนูใช้เงินในการแปลงเพศ ซึ่งมาจากการเก็บเงินของตัวเอง หนูใช้เวลาเก็บเงินมา 3 ปี เวลาได้เงินมา หนูก็จะแบ่งเลย อันนี้แปลงเพศนะ อันนี้ใช้กินนะ อันนี้จ่ายค่าหอพักนะ หนูต้องวางแผนดีๆ เลย


รายได้อีกทาง

ส่วนรายได้หนูก็ทำอย่างที่บอก แต่ก็จะมีงานอื่นอีก หนูยังทำประชาสัมพันธ์ให้กับสินค้าด้วย ถ้าเขาจ้างมา หนูก็จะรับทำ ไม่ว่าจะหาคนรีวิว ประชาสัมพันธ์ให้สินค้าเขาดัง นี่หนูเอาความรู้ที่เรียนมา มาใช้โดยตรงเลยนะคะ

ค่าเทอมใครจ่าย??

หนูช่วยแม่ออกคนละครึ่งค่ะ เพราะถ้าหนูออกเองหมด มันจะเหนื่อยมาก และเรียนหนัก เวลาน้อย แต่หนูเป็นคนวางแผนทุกอย่าง


ที่บ้านว่าไง??

ตอนแรกที่บ้านก็เป็นห่วงหนูนะคะ กลัวหนูจะไม่ปลอดภัย เพราะมันต้องผ่าตัดใหญ่ ต้องดมยาสลบ แต่โรงพยาบาลเขาดูแลดีได้มาตรฐาน

อดทน เท่านั้น!!

ก่อนจะได้ทำ ต้องตรวจจิตเวช ตรวจทุกอย่าง ตรวจร่างกาย ใช้เวลา 3 เดือนเลย ถามว่าทำไมนาน หนูคิดว่า เขาต้องการให้เรามั่นใจจริงๆ และฝึกความอดทนเราด้วย ถ้าเราอยากทำจริง ก็ต้องอดทนไปหาหมอบ่อยๆ


คนที่อยากแปลงเพศ...ฟังค่ะ!!

หนูอยากฝากไปถึงน้องๆ ไปถึงคนที่อยากจะแปลงเพศว่า อยากให้คิดดีๆ เรื่องแบบนี้ทำไปแล้ว มันไม่สามารถแก้ไขได้ ถ้าเราทำไปแล้ว ไม่มีวินัยในตัวเอง มันจะทำให้สิ่งที่เราทำมา มันล้มเหลว และอาจต้องกลับไปทำใหม่ และต้องเจ็บตัวอีก เพราะฉะนั้นมันต้องพร้อมทุกๆ อย่าง ไม่ใช่พร้อมแค่เงิน หรือแค่อยากจะทำ เราต้องคิดให้ดี ว่าเราอยากเป็นผู้หญิงจริงๆ แล้วเราถึงจะทำ

สำคัญที่สุด!!

กำลังใจจากครอบครัว ความเข้าใจจากครอบครัว ต้องพูดคุยกันก่อน ถ้าทำมาแล้ว และครอบครัวรับไม่ได้ ทุกอย่างมันจะยิ่งแย่ แต่โชคดีที่บ้านหนูให้กำลังใจ เวลาที่ทรมาน พวกเขาก็ให้กำลังใจหนู ช่วยให้หนูผ่านมาได้


ความภาคภูมิใจ

กว่าหนูจะเป็นเช่นทุกวันนี้ได้ ก็เพราะหนูเป็นคนขวนขวายหาเอาเอง เพราะจริงๆ ถามว่าที่บ้านสนับสนุนมั้ย มันก็ไม่เชิง แต่ว่าหนูก็หาเงินเอง ไม่อยากรบกวนที่บ้าน หนูจึงรู้สึกเหนื่อย แต่หนูก็ภาคภูมิใจมากๆ

กว่าจะมีวันนี้

หนูเป็นคนแบบนี้แหละ ตั้งใจทำอะไรแล้ว ก็จะทำให้มันสุด ถ้าทำไม่สุด หนูก็จะไม่ทำ หนูตั้งใจจะแปลงเพศ หนูคิดมา 3 ปี หนูต้องคิด ต้องทบทวน ว่าจะเป็นผู้หญิงจริงเหรอ เพราะหนูจำความได้ หนูรู้สึกว่า หนูไม่อยากเล่นกับผู้ชายเลย ถ้าเล่นพ่อแม่ลูก หนูก็ขอเป็นแม่ค่ะ นี่คือธรรมดาของเด็กคนหนึ่ง ที่คิดว่าตัวเองเป็นผู้หญิง


โดนล้อ...ทำอย่างไร

ตอนแรกหนูก็นอยด์นะคะ เพราะว่าเรามีความรู้สึก แต่มันก็เป็นเรื่องที่ชินไปแล้วค่ะ หนูว่า...ทุกอย่างมันสอนให้หนูเข้มแข็ง หนูจะบอกเด็กๆ แบบนี้ค่ะ สมมติถ้ามีคนมาว่าหรือล้อเรา เราก็อย่าไปถือสาเขาเลย เพราะคนเราบางทีมีทั้งคิดดีและไม่ดี สังคมเราเองก็ยังไม่เปิดกว้างมาก แต่ ณ วันนี้ก็ถือว่ามากกว่าแต่ก่อนเยอะ

พี่แคมปัสว่า...น้องปีโป้มีความคิดดี มีความตั้งใจ สำคัญเธอรู้ว่าเธอทำอะไรอยู่ เธอวางตัวดี เธออยู่ในมุมของเธอ แม้วันนี้เธอจะเป็นผู้หญิงเต็มตัว และสุดท้ายเธอยังฝากเรื่องราวข้อคิดดีๆ ไว้ทิ้งท้ายด้วยว่า


"หนูอยากให้กำลังใจกับทุกคน เราเป็นในสิ่งที่เราเป็น ดีที่สุดแล้ว แต่ขอให้เราเป็นคนดี ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใครก็พอแล้ว เพราะชีวิตคนเรา บางทีมันเลือกไม่ได้ทั้งหมด แต่เราเลือกจะทำดีได้"

เป็นไงคะ...น่ารักมั้ย พี่แคมปัสเป็นกำลังใจให้ทุกคน ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ตั้งใจทำอะไรก็แล้วแต่ ขอให้ทุกคนได้ทำในสิ่งที่ปรารถนา ดังเช่นน้องปีโป้ แขกรับเชิญของเราในวันนี้.




loading...


ที่มา:http://www.thairath.co.th/content/624592


EmoticonEmoticon