loading...
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 31 พ.ค.59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ครอบครัวและญาติของ นายชัยรัตน์ ย่องลั่น , นายสมาน กันธา และ นายพงศ์เทพ คำแก้ว ซึ่งเป็น 3 นักปั่นจักรยานเชียงใหม่ ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่นางสาวภัทร์ชุดา จายเรือน นักศึกษา คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ได้ขับรถเก๋งพุ่งชนกลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยาน เหตุเกิดบริเวณถนนเชียงใหม่ - เชียงราย ขาออก ช่วงกิโลเมตรที่ 8-9 หมู่ 4 ต.ตลาดขวัญ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 3 พ.ค.58 ที่ผ่านมา ได้เดินทางมายังศาลจังหวัดเชียงใหม่ ตามที่ศาลนัดตัดสินสืบเสาะในคดีที่อัยการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นโจทก์ฟ้อง นางสาวภัทร์ชุดา จำเลย ในฐานความผิดกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ตามมาตรา 291 พระราชบัญญัติการจราจรทางบก โดยรายงานข่าวแจ้งว่า นางสาวภัทร์ชุดา ได้เดินทางมาตามที่ศาลนัดในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน
โดยในวันนี้ทาง นายไกรวิช จามรมาน ผู้พิพากษาศาล ได้ออกนั่งบัลลังก์เพื่ออ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีดำหมายเลข 2952/2558โดยทางด้าน น.ส.ภัทร์ชุดา จายเรือน พร้อม ทนาย ได้เข้ารับฟังคำตัดสินในฐานะจำเลย ซึ่งก็ได้มีกลุ่มญาตินักปั่นที่เสียชีวิตเข้าร่วมรับฟังเป็นจำนวนมาก โดยในเบื้องต้นนั้น ทางศาลได้มีคำพิพากษาตัดสินให้ลงโทษน.ส.ภัทร์ชุดา จายเรือน ในคดี "กระทำการโดยประมาท ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย" โดยศาลได้บทลงโทษให้จำคุก 4 ปี แต่เนื่องจากทางคู่กรณีได้มีการยอมรับสารภาพ ศาลจึงตัดสินลดโทษให้เหลือจำคุก 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา พร้อมเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ โดยหลังจากที่ได้มีการฟังคำตัดสิน ทางทนายได้มีการยื่นขอประกันตัว ก่อนที่จะยื่นอุทธรณ์คดีตามกฎหมายอีกครั้ง ส่วนการจ่ายค่าชดเชยทางศาลได้มีการตัดสินในส่วนของกรณีของ น.ส.ก้องกานต์ ย่องลั่น พร้อมด้วย น.ส.นินนท์ ย่องลั่น ลูกสาว ของนายชัยรัตน์ ย่องลั่น ซึ่งได้เสียชีวิตศาลได้มีการยกฟ้องในคดีแพ่ง ส่วนกรณีของ นางปราณี กันทา ซึ่งได้สูญเสียสามีไปจากเหตุการดังกล่าว ศาลได้ตัดสินให้จำเลย ชำระเงินชดเชยเงินเป็นจำนวน 1.7 ล้านบาท และในส่วนของนายแก้ว คำแก้ว และนางแก้ว คำแก้ว ซึ่งได้สูญเสียลูกชายจากเหตุการดังกล่าว ศาลได้ตัดสินให้จำเลยชดเชยเงินเป็นจำนวน 4.35 แสนบาท
loading...
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่ได้รับฟังคำตัดสิน ทางด้าน น.ส.ก้องกานต์ ย่องลั่น และ น.ส.นินนท์ ย่องลั่น ลูกสาว ของ นายชัยรัตน์ ย่องลั่น ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว เปิดเผยว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้ผ่านมากว่า 1 ปีแล้ว แต่ทางครอบครัวก็ยังคงรู้สึกเศร้าโศรกเสียใจกับการจากไปของบิดาซึ่งเป็นเสาหลักของครอบครัว ซึ่งในวันนี่ทางศาลได้มีการนัดตัดสินคดีความ ตนจึงได้เดินทางมาพร้อมกับตัวแทนของผู้เสียชีวิตอีก 2 ครอบครัวเพื่อมารับฟังคำตัดสินของศาล โดยในเบื้องต้นได้ยอมรับและเคารพในคำตัดสินของศาล และในส่วนของคู่กรณีได้มีการติดต่อเพื่อช่วยเหลือค่าทำศพรายละ 1 แสนบาท นอกจากนี้ยังมีเงินจากบริษัทประกันภัย รวมทั้งสิ้น รายละ 1.2 ล้านบาท แต่สำหรับตนคิดว่าไม่คุ้มค่ากับชีวิตของบิดาตนเองที่ได้สูญเสียไปกับความประมาทของคนเมาแล้วขับในครั้งนี้ อีกทั้งหลังจากเกิดเหตุ ทางคู่กรณีก็ไม่ได้มีการแสดงความรับผิดชอบแต่อย่างใด ทั้งนี้ตนอยากฝากถึงผู้ใช้รถ ใช้ถนน ให้มีจิตสำนึกในการใช้รถใช้ถนน รวมไปถึงอยากให้ทุกคนร่วมกันปฏิบัติตามกฎจราจร ที่สำคัญหากเมาต้องไม่ขับเด็ดขาด เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียต่อตนเองและผู้อื่นอย่างเช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของตน
ขณะที่ทาง น.ส.นินนท์ ย่องลั่น กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของตนภายหลังจากที่ได้รับฟังคำตัดสินของศาลแล้วนั้นรู้สึกเสียใจกับคำตัดสินที่กล่าวโทษจำเลยเพียง 2 ปี เมื่อเทียบกับ 3 ชีวิตที่เสียไป อีกทั้งคนในครอบครัวของผู้เสียชีวิตที่ต้องทนโศกเศร้าเสียใจอยู่จนถึงทุกวันนี้ นอกจากนี้การตัดสินจำคุกเพียง 2 ปีนั้น เมื่อถึงวันสำคัญหรือเทศกาลต่างๆ ก็จะมีการลดโทษลงอีกจากที่พิพากษาไว้ 2 ปี แต่ในเมื่อมีคำตัดสินมาเช่นนี้ทางตนและผู้เสียหายก็ต้องยอมรับในที่สุด
loading...
ที่มา: http://www.77jowo.com/
EmoticonEmoticon