ทำอะไรได้หลายเมนู!!หมู่บ้านนครพนมทำ ‘ตุ๊กแกอบแห้ง’ เสียบไม้ส่งออกทำยาโด๊ป-ปรุงเมนูเด็ด โกยเงินปีละ 10 ล้าน (คลิป)



loading...



เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนฤดูทำนาชาวบ้านใน อ.นาหว้า โดยเฉพาะที่ บ.ตาล หมู่ 8 และหมู่ 15 ต.นาหว้า จ.นครพนม ร่วม 30 หลังคาเรือน จะช่วยกันประกอบอาชีพตุ๊กแกอบแห้งซึ่งหลายคนที่พบเจอตุ๊กแกห้อยโหนบนขื่อและเพดานยังต้องขยาด แต่ชาวบ้านแห่งนี้รับซื้อและผลิตตุ๊กแกอบแห้ง โกยเงินเป็นลำเป็นสันมานานกว่า 20 ปี แล้ว ก่อนส่งขายให้โรงงานนายทุนรับซื้อใกล้หมู่บ้าน นำส่งต่างประเทศทำเป็นยาโด๊ปชูกำลัง ขณะที่ชาวบ้านบางรายยังนำตุ๊กแกไปทำเป็นเมนูเด็ดหลายชนิดอีกด้วย 


นางพรหมสมัย วงษาเนาว์ วัย 43 ปี หนึ่งในชาวบ้านผู้ผลิตตุ๊กแก กล่าวว่า จะมีนายทุนชาวไทยละแวกบ้านไปตระเวนรับซื้อตุ๊กแกสดๆ มาจากจังหวัดต่างๆ อาทิ มุกดาหาร อุบลราชธานี นครราชสีมา ร้อยเอ็ด และจังหวัดในภาคเหนือ ที่มีญาติพี่น้องอาศัยอยู่ตามจุดต่างๆยกเว้นภาคกลางและภาคใต้ ตกตัวละ 5-10 บาทแล้วแต่ขนาด อัดใส่ถังน้ำแข็งขนาดใหญ่ครั้งละ 500-1,000 ตัว ป้องกันตัวตายเน่าเสีย ส่วนตุ๊กแกที่เป็นๆ จะจับใส่กระสอบ อาชีพนี้จะทำกันเป็นครอบครัวและหมู่ญาติรวม 6-7 คน เพราะการผลิตมีมากถึง 15 ขั้นตอน ส่วนอุปกรณ์การทำ เช่น กิ๊บเหล็กหนีบ ไม้ไผ่ แม็กเย็บกระดาษ กรรไกร เชือกฟาง จะมีนายทุนเตรียมจัดหามาให้


 คุณยายกฤษณา เสนารักษ์ อายุ 68 ปี เล่าถึงขั้นตอนการผลิตว่า เริ่มจากใช้มีดคว้านใส้และขี้ออกล้างน้ำให้สะอาด ใช้มีดกรีดผ่าท้องยาวจากต้นคอจนถึงสันหาง นำไม้ไผ่คล้ายไม้เสียบลูกชิ้น ขึงแยกลำตัวคู่ขาหน้าหลัง ก่อนนำไม้ไผ่แบนๆหน้ากว้าง 2 นิ้ว 2 แผ่น ขึงแผ่ลำตัวออก จึงใช้กีบเหล็กหนีบให้ตึง ก่อนนำแม็กเย็บติดกับไม้ไผ่แบนๆ ส่วนหางก็นำเชือกฟางมัดขึงดึงตรง ก่อนรวบรวมนำเข้าเตาอบถ่าน 3 เตาที่ประกอบขึ้นเอง อบแห้งนาน 1 คืนนาน 12 ชั่วโมง หากตากแดดจะเน่าและอาจมีเชื้อรา จึงนำออกมาลอกแกะเชือกฟางมัดส่วนหางออก ก่อนทำกาวลาเท็กซ์มาแปะทาติดยึดกับไม้ไผ่แบนอีกรอบ ก่อนรวบรวมนำใส่สุมไก่ ส่งขายให้บริษัทจากไต้หวันที่มาตั้งโรงานรับซื้อห่างจากหมู่บ้านแค่ 500 เมตร




loading...


 “การผลิตจะแบ่งหน้าที่รับผิดชอบคนละ 2-3 แผนก เพราะมีหลายขั้นตอน ทำคนเดียวไม่ได้ แต่ละวันจะตื่นตั้งแต่ตี 3 ร่วมกับญาติและลูกหลาน ผลิตครั้งละ 500 ตัว ได้ค่าแรงตกตัวละ 3 บาท ใน 1 สัปดาห์จะทำ 4-5 ครั้ง ลูกหลานแบ่งให้ใช้ 500-700 บาทต่อ 1 สัปดาห์ มีรายได้ต่อคน 3,000-5,000 บาท แล้วแต่ความขยันทำมากน้อย ตุ๊กแกยังนำมาประกอบอาหาร เช่น ส้มตุ๊กแก คล้ายแหนมสี่โครงหมูทอด ผัดกระเพรา ผัดเผ็ด ทอดหมักใส่ซอส เนื้อคล้ายเนื้อไก่มีสีขาวนวล หากนำไปทำต้มยำใส่ไก่ดำใส่เครื่องเทศเชื่อว่าคล้ายยาอายุวัฒนะ ขณะที่ไข่ตุ๊กแกสีขาวๆ ยังนำมาทำเป็นหอหมกได้ด้วย ส่วนขี้ที่ควักออกนำไปเลี้ยงปลา หรือนำไปใส่เป็นปุ๋ยในนาข้าว มีเพื่อนบ้านมาเข้าคิวขอแทบแย่งกัน” ยายกฤษณา กล่าว


ด้านนายบุญเพ็ง วงษาเนาว์ ผู้ใหญ่บ้าน บ.ตาล หมู่ 8 กล่าวว่า ก่อนนี้มีชาวบ้านผลิตตุ๊กแกในหมู่ 15 ผลิตกันมากในหมู่ 8 กว่า 70 ครัวเรือน หลังตุ๊กแกราคาตกนายทุนจึงเริ่มหดหาย จึงเหลือผู้ผลิตร่วม 30 ราย เป็นอาชีพก่อนฤดูทำนาของชาวบ้านที่จะเริ่มทำช่วงเดือนมี.ค.-มิ.ย.ของทุกปี โดยจะมีบริษัทจากไต้หวันและฮ่องกงมาตั้งโกดังรับซื้อในตัวหมู่บ้าน ตามขนาด 20-30 บาทต่อตัว เชื่อว่านำไปเป็นส่วนผสมยาโด๊ปชูกำลัง ที่ผ่านมาสามารถทำเงินให้ชาวบ้านแต่ละปีกว่า 10 ล้านบาท ส่วนเดือนต.ค.ก็จะพากันผลิตไส้เดือนตากแห้ง สลับหมุนเวียนเป็นฤดูกาลไป ที่ผ่านมามีการกล่าวขวัญว่าเป็นอาชีพปริศนา ซึ่งอยู่ในคำขวัญของอำเภอ แต่เป็นอาชีพเลี้ยงครอบครัวได้อย่างสบายมากว่า 20 ปี แล้ว 




loading...


ที่มา:http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1464754545

ในแทบขาด!!!สลดใจ! พ่อร่ำไห้กอดศพลูกสาววัย5ขวบ หลังจยย.ล้มโดนรถทับซ้ำ ไปส่งไม่ถึงโรงเรียน



loading...



 เมื่อเวลา 07.45 น.วันที่ 1 มิ.ย. เกิดอุบัติเหตุจักรยานยนต์ลื่นล้มเนื่องจากฝนตกถนนลื่น บริเวณถนนจอมทองซอย5 ท้องที่สน.บางขุนเทียน กทม. หลังจากนั้นมีรถยนต์ขับมาทับร่างด.ญ.วัย 5 ขวบสวมชุดนักเรียนเสียชีวิตทันที ส่วนผู้หญิงวัยกลางคนที่นั่งซ้อนท้ายมาด้วยคาดจะเป็นแม่เด็กได้รับบาดเจ็บสาหัส รถกู้ชีพบางประกอก 9 นำส่งร.พ.บางประกอก 9  ส่วนผู้ขับขี่คาดว่าเป็นพ่อเด็กนั้นบาดเจ็บเล็กน้อย นั่งร่ำไห้กอดศพลูกสาวอยู่กลางถนน เป็นที่น่าเวทนาเป็นอย่างยิ่ง


 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เด็กหญิงผู้เสียชีวิตทราบว่าคือด.ญ.ชัชฎาพร พรมสาวะนา อายุ 5 ขวบ นักเรียนชั้นอนุบาล 2/1 โรงเรียนวัดนางนอง



loading...



โดยก่อนเกิดเหตุพ่อของด.ญ.ชัชฏาพรขี่รถจักรยานยนต์พาภรรยาและลูกสาวเพื่อไปส่งโรงเรียน แต่เกิดฝนตกถนนลื่น ทำให้รถจักรยานยนต์โดนรถอีกคันเฉี่ยวจนเสียหลักล้มกลางถนน เป็นเหตุให้รถยนต์ที่ขับตามมาทับด.ญ.ชัชฎาพรเสียชีวิต ส่วนรถยนต์คันดังกล่าวขับหลบหนีไปทันที ซึ่งตำรวจกำลังเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป




loading...


ที่มา:http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1464752484



สดๆ ร้อนๆ !! คดีนศ.สาว เมาแล้วขับ ซิ่งชนนักปั่น 3 ศพ ล่าสุด ศาลตัดสินออกมาแบบนี้!?



loading...



เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 31 พ.ค.59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ครอบครัวและญาติของ นายชัยรัตน์ ย่องลั่น , นายสมาน กันธา และ นายพงศ์เทพ คำแก้ว ซึ่งเป็น 3 นักปั่นจักรยานเชียงใหม่ ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่นางสาวภัทร์ชุดา จายเรือน นักศึกษา คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ได้ขับรถเก๋งพุ่งชนกลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยาน เหตุเกิดบริเวณถนนเชียงใหม่ - เชียงราย ขาออก ช่วงกิโลเมตรที่ 8-9 หมู่ 4 ต.ตลาดขวัญ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่  เมื่อวันที่ 3 พ.ค.58 ที่ผ่านมา ได้เดินทางมายังศาลจังหวัดเชียงใหม่ ตามที่ศาลนัดตัดสินสืบเสาะในคดีที่อัยการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นโจทก์ฟ้อง นางสาวภัทร์ชุดา จำเลย ในฐานความผิดกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ตามมาตรา 291 พระราชบัญญัติการจราจรทางบก โดยรายงานข่าวแจ้งว่า นางสาวภัทร์ชุดา ได้เดินทางมาตามที่ศาลนัดในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน



โดยในวันนี้ทาง นายไกรวิช จามรมาน ผู้พิพากษาศาล ได้ออกนั่งบัลลังก์เพื่ออ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีดำหมายเลข 2952/2558โดยทางด้าน น.ส.ภัทร์ชุดา จายเรือน พร้อม ทนาย ได้เข้ารับฟังคำตัดสินในฐานะจำเลย ซึ่งก็ได้มีกลุ่มญาตินักปั่นที่เสียชีวิตเข้าร่วมรับฟังเป็นจำนวนมาก โดยในเบื้องต้นนั้น ทางศาลได้มีคำพิพากษาตัดสินให้ลงโทษน.ส.ภัทร์ชุดา จายเรือน ในคดี "กระทำการโดยประมาท ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย" โดยศาลได้บทลงโทษให้จำคุก 4 ปี แต่เนื่องจากทางคู่กรณีได้มีการยอมรับสารภาพ ศาลจึงตัดสินลดโทษให้เหลือจำคุก 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา พร้อมเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ โดยหลังจากที่ได้มีการฟังคำตัดสิน ทางทนายได้มีการยื่นขอประกันตัว ก่อนที่จะยื่นอุทธรณ์คดีตามกฎหมายอีกครั้ง ส่วนการจ่ายค่าชดเชยทางศาลได้มีการตัดสินในส่วนของกรณีของ น.ส.ก้องกานต์ ย่องลั่น พร้อมด้วย น.ส.นินนท์  ย่องลั่น ลูกสาว ของนายชัยรัตน์ ย่องลั่น ซึ่งได้เสียชีวิตศาลได้มีการยกฟ้องในคดีแพ่ง ส่วนกรณีของ นางปราณี กันทา ซึ่งได้สูญเสียสามีไปจากเหตุการดังกล่าว ศาลได้ตัดสินให้จำเลย ชำระเงินชดเชยเงินเป็นจำนวน 1.7 ล้านบาท และในส่วนของนายแก้ว คำแก้ว และนางแก้ว คำแก้ว ซึ่งได้สูญเสียลูกชายจากเหตุการดังกล่าว ศาลได้ตัดสินให้จำเลยชดเชยเงินเป็นจำนวน 4.35 แสนบาท




loading...



อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่ได้รับฟังคำตัดสิน ทางด้าน น.ส.ก้องกานต์ ย่องลั่น และ น.ส.นินนท์  ย่องลั่น ลูกสาว ของ นายชัยรัตน์ ย่องลั่น ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว เปิดเผยว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้ผ่านมากว่า 1 ปีแล้ว แต่ทางครอบครัวก็ยังคงรู้สึกเศร้าโศรกเสียใจกับการจากไปของบิดาซึ่งเป็นเสาหลักของครอบครัว ซึ่งในวันนี่ทางศาลได้มีการนัดตัดสินคดีความ ตนจึงได้เดินทางมาพร้อมกับตัวแทนของผู้เสียชีวิตอีก 2 ครอบครัวเพื่อมารับฟังคำตัดสินของศาล โดยในเบื้องต้นได้ยอมรับและเคารพในคำตัดสินของศาล และในส่วนของคู่กรณีได้มีการติดต่อเพื่อช่วยเหลือค่าทำศพรายละ 1 แสนบาท นอกจากนี้ยังมีเงินจากบริษัทประกันภัย รวมทั้งสิ้น รายละ 1.2 ล้านบาท แต่สำหรับตนคิดว่าไม่คุ้มค่ากับชีวิตของบิดาตนเองที่ได้สูญเสียไปกับความประมาทของคนเมาแล้วขับในครั้งนี้ อีกทั้งหลังจากเกิดเหตุ ทางคู่กรณีก็ไม่ได้มีการแสดงความรับผิดชอบแต่อย่างใด ทั้งนี้ตนอยากฝากถึงผู้ใช้รถ ใช้ถนน ให้มีจิตสำนึกในการใช้รถใช้ถนน รวมไปถึงอยากให้ทุกคนร่วมกันปฏิบัติตามกฎจราจร ที่สำคัญหากเมาต้องไม่ขับเด็ดขาด เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียต่อตนเองและผู้อื่นอย่างเช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของตน


 ขณะที่ทาง น.ส.นินนท์  ย่องลั่น กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของตนภายหลังจากที่ได้รับฟังคำตัดสินของศาลแล้วนั้นรู้สึกเสียใจกับคำตัดสินที่กล่าวโทษจำเลยเพียง 2 ปี เมื่อเทียบกับ 3 ชีวิตที่เสียไป อีกทั้งคนในครอบครัวของผู้เสียชีวิตที่ต้องทนโศกเศร้าเสียใจอยู่จนถึงทุกวันนี้ นอกจากนี้การตัดสินจำคุกเพียง 2 ปีนั้น เมื่อถึงวันสำคัญหรือเทศกาลต่างๆ ก็จะมีการลดโทษลงอีกจากที่พิพากษาไว้ 2 ปี แต่ในเมื่อมีคำตัดสินมาเช่นนี้ทางตนและผู้เสียหายก็ต้องยอมรับในที่สุด



loading...


ที่มา: http://www.77jowo.com/
มาแล้วครับ สถิติหวย สถิติหวยออกเดือนมิถุนายนและ หวยวันพุธ ย้อนหลัง 20 ปีนะครับ

มาแล้วครับ สถิติหวย สถิติหวยออกเดือนมิถุนายนและ หวยวันพุธ ย้อนหลัง 20 ปีนะครับ



loading...


สถิติหวย สถิติหวยออกเดือนมิถุนายน 20 ปียอ้นหลัง


loading...


 สถิติหวยออกวันพุธ ย้อนหลัง 20 ปี